แบบฟอร์มเอกสาร
ธันวาคม 9, 2011คอลัมน์ สถานีอาชีพ ‘มติชน’ อคาเดมี: สุดยอดเมนูข้าวลาบข้าวสังข์หยดทอด
ธันวาคม 18, 2011เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ผ่านมา พวกเราชาวไทยต่างก็น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีต่อปวงชนชาวไทยเสมอมา ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล เล็งเห็นความสำคัญของความยั่งยืนทางด้านอาหาร ทำให้ปัจจุบันนี้ประเทศไทยได้มีอาหารโปรตีน ทั้งบริโภค ทั้งช่วยยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว
ปลานิล…พันธุ์ปลาที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิอากิฮิโตแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปล่อยเลี้ยงในบ่อบริเวณพระตำหนักจิตรลดาฯ พระราชวังสวนดุสิต เมื่อครบ 1 ปีจึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานลูกปลานิลให้กรมชลประทานเลี้ยงขยายพันธุ์ และแจกจ่ายเกษตรกร พร้อมกับปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นแหล่งอาหารให้ชาวบ้าน จนกระทั่งทุกวันนี้ประชาชนชาวไทยได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง
ดังนั้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นการส่งเสริมการบริโภคปลานิลที่เป็นอาหารโปรตีนชั้นดี และเพิ่มความหลากหลายในการนำปลานิลไปรับประทานอย่างกว้างขวาง ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงได้คิดเมนูปลานิลที่สามารถเปลี่ยนจากเนื้อปลาธรรมดา มาเป็นเมนูที่สุดพิเศษเทียบเท่ากับเมนูปลาราคาแพงเลยทีเดียว
อ.พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า เมนูที่คิดขึ้นมีอยู่ 2 เมนู คือ “เมนูปลานิลนึ่งมะกรูด” และ “เมนูข้าวกล้องปั้นไส้ปลานิลปรุงรสสมุนไพร” โดยทั้งสองเมนูมีวิธีการทำที่ไม่ได้ยุ่งยาก สามารถทำรับประทานกันเองได้ในครอบครัว ซึ่งนอกจากจะอร่อยแล้วยังได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ หลายๆ คนอาจคิดว่าเนื้อปลานิลมีกลิ่นคาว หากแต่จริงๆ แล้วปลาทุกชนิดล้วนก็มีกลิ่นคาวทั้งนั้น เพียงแต่ในการนำไปประกอบอาหาร จะต้องมีวิธีการและเคล็ดลับเพื่อดับกลิ่นคาว ซึ่งใน 2 เมนูที่นำเสนอในวันนี้ได้ใช้ มะกรูด ซึ่งเป็นผักและเครื่องปรุงที่เป็นสมุนไพรของไทย มาใช้ดับกลิ่นคาวได้อย่างดี
สำหรับปลานิลนึ่งน้ำมะกรูดนั้น ส่วนผสมประกอบด้วย ปลานิลแล่เอาแต่เนื้อ 300 กรัม, หน่อข่าอ่อน 10 หน่อ, น้ำมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือป่น ฝ ช้อนชา วิธีทำ เริ่มจากปอกหน่อข่าอ่อน ใช้มีดซอยที่หัวข่าบางๆ จากนั้นแล่ปลานิลเอาแต่เนื้อให้เป็นชิ้นยาวบางๆ แล้วนำไปพันที่ข่าอ่อน เสร็จแล้วผสมน้ำมะกรูดกับเกลือให้เข้ากัน ราดลงไปที่เนื้อปลาที่พันข่าอ่อน แล้วจึงนำไปนึ่ง 10 นาทีก็พร้อมเสิร์ฟกับน้ำจิ้ม รับประทานกับผักนึ่ง เช่น ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ฟักทอง บวบ
ส่วนน้ำจิ้ม ส่วนผสมมี พริกชี้ฟ้าแดงสับ 1 ช้อนชา, ต้นผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะกรูด 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1 ช้อนชา วิธีทำ นำน้ำตาลทราย เกลือ น้ำมะกรูด มาผสมคนให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ต้นผักชี น้ำต้มสุกเล็กน้อย ชิมให้ได้สามรสเปรี้ยวเค็มหวาน จากนั้นก็นำไปราดเนื้อปลาพันข่าอ่อนที่นึ่งเสร็จแล้วก็รับประทานได้เลย
ข้าวกล้องปั้นไส้ปลานิลปรุงรสสมุนไพร ส่วนผสมประกอบด้วย ข้าวกล้องหุงสุก 2 ถ้วย, เนื้อปลานิลนึ่งเอาแต่เนื้อครึ่งถ้วย, หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ, ขิงอ่อนซอย 1 ช้อนโต๊ะ, พริกชี้ฟ้าซอย 1 เม็ด, ใบมะกรูดซอย 2 ใบ, ผักชีเด็ดใบ 1 ต้น, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม น้ำปลา ตั้งไฟพอเดือด ยกลงใส่น้ำมะนาว จากนั้นผสมเนื้อปลานิล หอมแดง ตะไคร้ ขิง พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด และน้ำปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยใบผักชี แล้วตักข้าวใส่พิมพ์ให้ทั่ว ตักไส้เกลี่ยให้ทั่วบนข้าว ตักข้าวทับอีกครั้งกดพอแน่น รับประทานกับผักสด ถั่วฝักยาว ยอดกระถิน แตงกวา
อ.พงษ์ศักดิ์ยังได้บอกเคล็ดลับในการเตรียมปลาไม่ให้มีกลิ่นคาวว่า ควรนำปลาไปทาเกลือก่อน จากนั้นเช็ดให้แห้ง ส่วนมีดก็ต้องเป็นมีดที่คม และตอนแล่เนื้อปลาก็ต้องคอยเช็ดมีดตลอด จะทำให้ได้เนื้อปลาที่ออกมาสวยงามและไม่มีกลิ่นคาว น่ารับประทาน
“สำหรับปลานิล ปลาที่สามารถนำมาเป็นทั้งอาหาร และประโยชน์อีกนานัปการแก่ประชาชน ล้วนเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพวกเราปวงชนชาวไทย