อนุบาลตักบาตร (RMUTT cultivated schoolchildren’s good minds by donating the food.)
พฤษภาคม 2, 2011เผยโฉม 4 ดีไซเนอร์เลือดใหม่
พฤษภาคม 2, 2011ขนมเป็นของหวานหลัง อาหารของคนไทยมาช้านาน หรือเป็นของว่างสามารถรับประทานได้ทุกเวลาในยามหิว และขนมก็มีมากมายหลายประเภททั้งขนมไทย ขนมสมัยใหม่ ซึ่งผู้รับประทานมีทุกเพศทุกวัยแล้วแต่ความนิยมชมชอบในรสชาติของแต่ละบุคคล
นางสาวจริสรา ทองทัพไทย, นางสาวคณาพร ฤกษ์เกษมสันต์, นางสาวนุชนารถ แย้มสรวนนักศึกษาปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ร่วมกันสาธิตการทำ”ขนมดอกไม้สีรุ้ง”ซึ่งเป็นสูตรการคิดค้นที่จัดทำขึ้นมา จากดอกไม้พื้นบ้าน เช่น ดอกคำฝอย มีสารแซฟฟลาวเวอร์เยลโลว์ เป็นสารสีเหลือง ส่วนสารสีแดง คือ คาร์ทามิน มีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท ขับเหงื่อ ลดไขมันในเส้นเลือด ดอกเฟื่องฟ้ามีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงโลหิตและระบบขับถ่าย ใบเตยหอม มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ขับปัสสาวะ ดอกดาวเรือง ช่วยดูแลและบำรุงดวงตา บรรเทาอาการไอ คางทูม อาการหลอดลมอักเสบเป็นยาฟอกเลือดและขับลม ดอกอัญชันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตา เช่น ตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน ดอกเข็ม มีสรรพคุณแก้โรคตา แก้อาการตาแดง ตาแฉะ แก้ท้องผูกดอกกระเจี๊ยบ ป้องกันมะเร็ง ชะลอความแก่ เป็นยาขับเสมหะ ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันเลือด และลดความเข้มข้นของเลือด ป้องกันต่อมลูกหมากโต แก้อาการขัดเบา และสามารถลดไขมันในเลือดได้ซึ่งดอกไม้แต่ละอย่าง แต่ละชนิดก็จะมีสรรพคุณที่แตกต่างกันที่หาได้ง่าย โดยธรรมชาติ และมีอยู่ทั่วไปตามฤดูกาล ซึ่งมีสีสันและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค
นางสาวจริสรา ทองทัพไทย นักศึกษาปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยต่ออีกว่าดอกไม้ โดยธรรมชาติแล้วจะมีสีสันสวยงามและมีกลิ่นเฉพาะตัว บางชนิดสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ ทั้งคาวและหวานดอกไม้นั้นมีประโยชน์ในแง่ของสมุนไพรและสรรพคุณทางยาอีกด้วย เช่น ลดการอักเสบ ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ไม่เปราะแตกง่ายและรักษาริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ดอกไม้ยังมีสาระสำคัญอยู่ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ฟลาโวนอยด์”(Flavonoid)เป็นสารที่พบบริเวณดอกไม้ ช่วยในการสร้างสีทำให้มีสีสันสวยงาม คุณสมบัติดังกล่าวทำให้มีผู้สนใจนำดอกไม้มาบริโภคกันมากขึ้นและประกอบกับ ปัจจุบันคนไทยนิยมหันมาดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการบริโภคให้ได้สิ่งที่ดีต่อ สุขภาพของร่างกายกันมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มี “สารต้านอนุมูลอิสระ”ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนี้ สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจโรคชรา โรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์ได้
นางสาวจริสรา กล่าวต่ออีกว่า การใช้ดอกไม้มาทำเป็นขนมทานเล่น วิธีการทำไม่ยุ่งยาก สามารถทำเองได้ที่บ้าน ใช้ต้นทุนไม่สูงนักและอร่อย โดยใช้ส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาล จากนั้นเพิ่มคุณค่าด้วยมวลดอกไม้ที่สามารถรับประทานได้และช่วยด้านสีสัน กลิ่นและมีเส้นใยอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยในเรื่องระบบการขับถ่าย ลักษณะที่ได้จะคล้าย ๆคุกกี้ แต่ใช้น้ำมันพืชแทนส่วนผสมของเนยขนมชนิดนี้ให้ชื่อว่า “ดอกไม้สีรุ้ง” หรือRainbow flowers ซึ่งในขนมหนึ่งชิ้นจะประกอบไปด้วยดอกไม้ทั้งหมด 7 ชนิด 7 กลีบ แต่ละกลีบจะมีส่วนผสมของดอกไม้คือ 1. ดอกคำฝอย 2. ดอกเฟื่องฟ้า 3. ใบเตย 4. ดอกดาวเรือง 5. ดอกอัญชัน 6. ดอกเข็ม และ 7. ดอกกระเจี๊ยบโดยนำดอกไม้ทั้ง 7 อย่างสับอย่างละเอียด แบ่งแต่ละชนิดผสมให้เข้ากันกับแป้งสาลี,น้ำตาลทราย, น้ำมันถั่วเหลือง,เกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากันในอัตราส่วนผสม เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่เข้ากันพอดี ก็จะได้แป้งสำหรับปั้นพิมพ์ให้เป็นรูปดอกไม้ จากนั้นตกแต่งด้วยงาขาวแต้มไข่แดง นำเข้าตู้อบขนมตามอุณหภูมิจนสุกหอม พักไว้ให้เย็น สามารถเก็บไว้ในภาชนะปิดสนิทเพื่อรักษาความกรอบไว้ได้ รับประทานคู่กับเครื่องดื่ม ชากาแฟ หรือน้ำสมุนไพร หากผู้ใดสนใจสามารถเรียนรู้สอบถามข้อมูลได้ที่ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี หรือ http://www.rmutt.ac.th